พื้นฐานทางด้านปรัชญาการศึกษา
ในวงการศึกษาปรัชญาได้เข้ามามีบทสำคัญต่อการจัดการศึกษา
โดยเฉพาะปรัชญาการศึกษา ซึ่งหมายถึงอุดมคติ
อุดมการณ์อันสูงสุดซึ่งยึดเป็นหลักในการจัดการศึกษามีบทบาทในการเป็นแม่บทเป็นต้นกำเนิดความคิดในการกำหนดความมุ่งหมายของการศึกษา
และเป็นแนวทางในการจัดการศึกษา ตลอดจนกระบวนการในการเรียนการสอน ดังนั้นในการจัดการศึกษาโดยเฉพาะระดับประเทศปรัชญาการศึกษาจึงมีความสำคัญมาก เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยกำหนดทิศทางในการจัดการศึกษา
ช่วยกำหนดหลักการและ จุดมุ่งหมายของหลักสูตร รวมทั้งสิ่งอื่นที่จะตามมาคือ
การเลือกเนื้อหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการประเมินผลเป็นต้น
ปรัชญาการศึกษาต่าง ๆ มีดังนี้
– ปรัชญาสารัตถนิยมหรือสาระนิยม
(essentialism) เป็นปรัชญาที่ได้รับอิทธิพลจากปรัชญาทั่วไปสาขาจิตนิยม
(idealism) และสัจนิยม (realism) ถือว่าบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
และเป็นเครื่องมือของสังคม บุคคลต้องอุทิศตนเพื่อสังคม สะสมมรดกของสังคม
และสืบทอดวัฒนธรรมของสังคมให้คงอยู่ต่อไป
การจัดการศึกษาตามแนวคิดนี้จึงมีลักษณะเป็นการถ่ายทอด และอนุรักษ์วัฒนธรรมของสังคมเพราะเห็นว่า
สิ่งที่นำมาสอนนั้น ดีงาม ถูกต้อง และกลั่นกรองมาดีแล้วเนื้อหาวิชาที่นำมาสอนจะเป็นการเตรียมผู้เรียนให้มีชีวิตที่ดี
เช่น การอ่าน การเขียน เลขคณิต
ประวัติศาสตร์วรรณคดี ปรัชญาศาสนา เป็นต้น เนื้อหาเรียงลำดับจากง่ายไปสู่สิ่งที่ซับซ้อน
จากรูปธรรมไปสู่นามธรรม การจัดการเรียนรู้ยึดครูผู้สอนเป็นศูนย์กลาง เน้นการถ่ายทอดความรู้ให้ผู้เรียน
รับรู้และจำ คำนึงถึง เนื้อหาสาระมากกว่าความแตกต่างระหว่างบุคคล
วิธีสอนที่ใช้มากคือการบรรยายหรือการพูดของครู ผู้เรียนต้องอยู่ในระเบียบวินัยจนสามารถทำสิ่งต่าง
ๆ ได้ การประเมินผลเน้นด้านความรู้
– ปรัชญานิรันตรนิยม
(parennialism) ปรัชญานี้มีความเชื่อว่า
สิ่งที่มีความคงทนถาวร
ย่อมเป็นสิ่งที่ดีงามเป็นจริงมากกว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ การจัดการศึกษาจึงควรให้เรียนในสิ่งที่ดีงาม
มั่นคง มีเสถียรภาพ เนื้อหาวิชาที่เรียนจะเป็นวิชาที่พัฒนาเชาวน์ปัญญาและจิตใจ
เช่น วิทยาศาสตร์ ตรรกศาสตร์ ภาษาศาสตร์
วรรณคดี ไวทยากรณ์ศิลปะการพูด คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ และดนตรี ถือเป็นความสำคัญของมนุษย์และเตรียมตัว เพื่อการดำรงชีวิตการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนทุกคนเรียนเหมือนกันหมด
วิธีสอนใช้การฝึกฝนทางปัญญา เช่น การอ่าน การเขียน การฝึกทักษะ การท่องจำ การคำนวณ และการถามตอบ
– ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
หรือปรัชญาพิพัฒนนิยม
หรือปรัชญาวิวัฒนาการนิยม(progressivism) ปรัชญาการศึกษานี้ถือว่าการศึกษาเป็นเครื่องมือของสังคมในการถ่ายทอดวัฒนธรรมแก่ชนรุ่นหลัง
มีความเชื่อว่าการศึกษาเป็นชีวิตมากกว่าเป็นการเตรียมตัวเพื่อชีวิต
และส่งเสริมวิธีการแบบประชาธิปไตย
การจัดการศึกษาตามแนวนี้จะมุ่งส่งเสริมพัฒนาการเด็กทุกด้าน เน้นการปฏิบัติจริง
และความสัมพันธ์กับสภาพจริง การจัดการเรียนรู้ยึด ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรง กระบวนการจัดการเรียนร้มีหลายลักษณะยึดหลักความสนใจของผู้เรียนที่จะแก่ปัญหาสังคมต่าง
ๆ วิธีการใช้มากคือการทําโครงการการอภิปรายกลุ่มและการแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล
– ปรัชญาอัตนิยม
หรือปรัชญาอัตถิภาวนิยม หรือปรัชญาสวภาพนิยม (existentialism) ปรัชญานี้มีความเชื่อว่า ธรรมชาติของคน สภาพแวดล้อมทางสังคมเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้
ทุกคนสามารถกำหนดชีวิตของตนเองจึงเน้นการอยู่เพื่อปัจจุบัน
การปรับตัวให้เข้ากับสภาพของสังคม เผชิญกับปัญหาต่าง ๆ
ได้อยู่อย่างมีความสุขการจัดการศึกษาจึงให้ ผู้เรียนมีอิสระในการเรียนรู้
การตัดสินใจ สอนให้เด็กเป็นตัวของตัวเอง มีเสรีภาพในการเรียน
และเลือกเรียนมีความรับผิดชอบในตนเอง ครูผู้สอนเป็นเพียงผู้ชี้แนะแนวทาง
การจัดการเรียนรู้เน้นพัฒนาการของผู้เรียนแต่ละคน
วิชาที่เรียนเป็นวิชาที่พัฒนาความสามารถของบุคคลเฉพาะลงไปเช่นศิลปะปรัชญาวรรณคดีการเขียนการละครเป็นต้น
ปรัชญาปฏิรูปนิยม
(reconstructionism)
ปรัชญานี้มีความเชื่อว่าการศึกษาควรจะเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแลงสังคมโดยตรง
เน้นการจัดการศึกษาเพื่อสร้างสังคมให้ดี รู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคม
ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม อนาคตเป็นศูนย์กลาง
มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถและทัศนคติที่จะออกไปปฏิรูปสังคมให้ดีขึ้น
เนื้อหาวิชาเน้นหนักในหมวดสังคมศึกษา ด้านพฤติกรรมศาสตร์ อิทธิพลของชุมชนการจัดการเรียนรู้
ส่งเสริมให้ผู้เรียนสำรวจความสนใจและความต้องการของตนเองใช้วิธีสอนแบบให้ผู้เรียนค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเองเน้นการอภิปรายการแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง
ๆ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาของสังคม พร้อมให้ข้อเสนอแนะในการปฏิรูปสังคมด้วย
ตารางสอนจัดแบบยืดหยุ่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น